ดูกีฬากอล์ฟไม่เป็นเค้าเล่นกันอย่างไร ?

5-Feb-00 
ผมเองก็เคยบ่นอย่างนี้เหมือนกันตอนที่ยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสกีฬานี้ก็เลยเข้าใจว่าบางท่านที่ยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสก็คงอยากทราบ วิธีการดูและกติกาการเล่นเบื้องต้นของกอล์ฟกันอย่างแน่นอนแต่บอกก่อนนะว่าผมเขียนขึ้นตามที่ผมเข้าใจอยู่ ถ้าจุดไหนที่ท่านผู้รู้คิดว่า ไม่ถูกต้องก็ช่วยแนะนำเข้ามาได้นะครับ....สำหรับศัพท์บางคำที่ไม่มีชี้แจงในหน้านี้ลองคลิกไปดูที่คำศัพท์กีฬากอล์ฟได้นะครับ รวมทั้งกติกากอล์ฟที่กำลังค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ อยู่ตอนนี้ .Web Master  
           
5-Feb-00  กอล์ฟมีกี่หลุม พาร์ เบอร์ดี้ อีเกิ้ล โบกี้ Albatross ไปสนามเริ่มเล่น
6-Feb-00 Teeoff,จะเล่นกติกาแบบไหนดี
7-Feb-00  เริ่มเล่นกันเสียที เขียนสกอร์การ์ด...อ่านคะแนน
 
กอล์ฟมีกี่หลุม
สนามกอล์ฟที่ผมเจอมา ก็จะมี 9หลุม, 18หลุม,27หลุมก็ แล้วแต่สนาม สนามที่เป็น 9 หลุมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสนามเล็ก ๆ ที่อาจจะอยู่ในตัวเมืองที่มีพื้นที่จำกัดอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสนามสำหรับซ้อมมือก็ว่าได้...โดยปรกติทั่วไปแล้วสนามกอล์ฟมาตรฐานจะประกอบไปด้วยหลุมทั้งหมด 18 หลุม โดยแบ่งเป็นครึ่งแรกและครึ่งหลังอย่างละ 9 หลุม ซึ่งถ้าดูในScore Card หรือกระดาษจดแต้ม ก็จะมีระบุบอกไว้ว่าเป็น IN 9หลุม และ OUT 9 หลุม ในจำนวนทั้งหมด 18 หลุมถ้านับพาร์มาตรฐานแล้วจะอยู่ที่ 72 หรือที่เรียกว่า พาร์ 72 
       ส่วน 27 หลุมนั้นโดยปรกติแล้วการเล่นที่ 18 หลุมก็นับว่าพอดีสำหรับหนี่งแมทช์การแข่งขันแล้วคือพอดีกับเวลาที่เล่น และกำลังของนักกีฬาแล้ว(บางคนแรงเยอะ ก็ไม่ว่ากัน) แต่ที่สนามบางสนามมีถึง 27 หลุมก็คงเป็นเพราะมีลูกค้ามากจนสนามไม่พอก็เลยใช้วิธีวนสลับสนามกัน อย่างเช่นมี Course A-B-C ทางสนามก็อาจจะจัดให้ กลุ่มลูกค้าแรกเล่นจาก Course AและB/ กลุ่มที่ 2 เล่นCourse BและC/ กลุ่มที่3 เล่นCourse CและA ก็จะทำให้สนามนั้นสามารถรองรับผู้เล่นได้มากขึ้นและสามารถที่จะเริ่มเล่นพร้อมกันในเวลาเดียวกันได้ถึง 3 สนาม
****** ส่วนหลุมที่ 19 เป็นการเย้าแหย่กันนะครับว่าบรรดาพ่อบ้านทั้งหลายแอบไปเล่นกีฬาอื่นที่ไม่ใช่กอล์ฟเพิ่มขึ้นอีก 1 หลุม  อันนี้ก็ต้องระวังหัวแตกไว้ด้วยก็แล้วกัน*******
พาร์ ( PAR ) คืออะไร...
พาร์คือการตีที่สามารถให้ลูกกอล์ฟลงหลุมได้ โดยที่จำนวนครั้งในการการตี(สโตร์ค)จะต้องได้เท่ากับจำนวนที่หลุมกำหนด เช่นหลุมที่ 1 เป็นหลุมที่มีระยะทางเท่ากับ 450 หลา มีป้ายกำหนดไว้ที่หลุมว่าเป็นพาร์5 นั่นหมายถึงว่า ถ้าผู้เล่นตีลูก 5 ครั้งแล้วลูกลงหลุมผู้เล่นนั้นก็จะได้ พาร์
เบอร์ดี้ (Birdie) คืออะไร...
เบอร์ดี้คือ การที่ผู้เล่นสามารถตีให้ลูกลงหลุมได้โดยที่จำนวนครั้งในการตีต่ำกว่าพาร์ที่หลุมกำหนดไว้ 1สโตร์คหรือว่า 1 แต้ม เช่นหลุมที่ 1 สนามกำหนดไว้ว่าเป็นพาร์ 5 แต่ถ้าผู้เล่นตีเพียง 4 ครั้งแล้วลงหลุมก็คือเป็นการได้เบอร์ดี้ในหลุมนั้น
อีเกิ้ล (Egle)คืออะไร...
อีเกิ้ล คือ การที่ผู้เล่นสามารถตีให้ลูกลงหลุมได้โดยที่จำนวนครั้งในการตีต่ำกว่าพาร์ที่หลุมกำหนดไว้ 2สโตร์คหรือว่า 2 แต้ม เช่นหลุมที่ 1 สนามกำหนดไว้ว่าเป็นพาร์ 5 แต่ถ้าผู้เล่นตีเพียง 3 ครั้งแล้วลงหลุมก็คือเป็นการได้อีเกิ้ลในหลุมนั้น แต่ถ้าเป็นพาร์3 แล้วได้ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 2 แต้ม นั่นก็หมายความว่าตีเพียงครั้งเดียวแล้วลง กรณีนี้จะเรียกว่าส โฮล-อิน-วัน
โบกี้ ( Bogey )
คือการที่ผู้เล่นตีเกินพาร์ไป 1 สโตร์ค
Albatross 
การตีได้คะแนน 3 สโตร์ค หริอ 3แต้มต่ำกว่าพาร์โดยทั่วไปในหลุมพาร์ 5 หมายถึงการตี 2 สโตร์คเท่านั้นลูกก็ลงหลุมแล้ว หรือการตีได้ โฮล-อิน-วัน ในหลุมพาร์ 4
ไปสนาม + เริ่มเล่น
ก่อนเริ่มเล่นดูมารยาทนักกอล์ฟกันก่อนไหมคลิกที่นี่ได้เลยครับ
การเริ่มเล่นหลังจากที่ติดต่อคลับเฮาส์( Club House)จ่ายค่าสนาม( Green Fee)และค่าแคดดี้แล้วก็นำคูปองไปติดต่อสตาร์ทเตอร์ หรือผู้ควบคุมการ ปล่อยผู้เล่นกอล์ฟ แต่ละกลุ่ม(ก๊วน)ลงสนาม กันไม่ให้ก๊วนหลังตีไปโดนก๊วนหน้าและบางทีสนามที่เราไปเล่นคนเยอะไปสตาร์ทเตอร์อาจพาเราไปเริ่มจาก คอร์ดอื่นที่คนเล่นน้อยกว่า จำนวนผู้เล่นในแต่ละก๊วนโดยปรกติทางสนามทั่วไปจะกำหนดให้เล่นรวมกันได้ไม่เกิน 4 คนเพราะถ้าเยอะเกินนี้แล้วก็จะทำ ให้เล่นได้ช้าขวางทางกลุ่มข้างหลังเอา เว้นเสียแต่ว่าบางสนามคนไปเล่นน้อย โดยเฉพาะวันธรรมดาทางสนามอาจจะอนุญาตให้เล่นเกิน 4 คนได้...แต่ผมว่า ถ้าเกินนี้ก็น่าจะแบ่งกลุ่มเล่นดีกว่าจะได้เสร็จเร็วและ ไม่ต้องรอกันให้เสียอารมณ์
ี่ ทีออฟ ( TEEOFF)
เวลาที่เรานัดเพื่อนไปตีกอล์ฟเพื่อนอาจจะถามเราว่า ทีออฟกี่โมง...นั่นหมายถึงว่า เราจะเริ่มสตาร์ทเล่นกอล์ฟหรือว่าตีลูกออกจากหลุมแรกกี่โมง ซึ่งเวลาที่เราโทรไปจองสนามก็เช่นเดียวกันเจ้าหน้าที่สนามก็จะถามเราเหมือนกัน
จะเล่นกติกาแบบไหนดี
โดยปรกติแล้วการเล่นจะแบ่งเป็น 2 แบบคือแมทเพลย์ กับ สโตร์คเพลย์ 
การเล่นแบบแมทเพลย์ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ นับหลุม ในจำนวน 18 หลุมใครชนะจำนวนหลุมมากกว่าก็เป็นผู้ชนะไป โดยไม่สนใจว่าคะแนนรวมจะได้เท่าไหร่ ซึ่งถ้าดูแล้วก็คือใครชนะ 10 หลุมก่อนก็เป็นอันชนะไป
การเล่นแบบสโร์คเพลย์ เป็นการเล่นที่นิยมเล่นกันอยู่ทั่วไป ก็คือต้องเล่นจนครบ 18 หลุมแล้วดูแต้มรวม(จำนวนครั้งการตีรวม)ของทั้ง 18 หลุมว่าใครได้น้อยกว่าก็จะเป็นผู้ชนะไป อย่างที่บอกไปแล้วตอนต้น ว่า 18 หลุมโดยมาตรฐานจะมีจำนวนพาร์รวม หรือจำนวนรวมของการบังคับให้ตีลงต่อหลุม เท่ากับ 72 ซึ่งเราก็คงจะได้ยินผู้ประกาศข่าวบอกผลการเล่นของนักกอล์ฟว่า ออก 8 อันเดอร์พาร์ 64 ก็คือ พาร์รวม 72 แต่จำนวนครั้งการตีน้อยกว่าที่กำหนดไป 8 ก็จะได้เท่ากับ 72-8 = 64
เริ่มเล่นเสียที
สตาร์ทเตอร์คือคนที่กำหนดให้เริ่มเล่นในหลุมแรก แต่ถ้าสตาร์ทเตอร์เอาแต่เก็บคูปองกรีนฟรีกับแคดดี้ฟรี( คูปองค่าสนามกับค่าแคดดี้ ) แล้วหนีไปไม่ยอมดูละก็ถามแคดดี้เอาก็แล้วกันว่าตีได้หรือยัง แต่ถ้าโชคร้ายเจอแคดดี้มือใหม่ถามอะไรก็ไม่รู้อีกละก็(สนามนี้แย่จัง) ก็จะต้องดูเองแล้วละครับ วิธีการดูก็คือ
    1) ให้ดูก๊วนหน้าที่ตีก่อนเราว่าเขาตีครั้งที่สองออกไปหรือยังถ้าเขายังไม่ตีครั้งที่2ละก็อย่าพึ่งตีเป็นอันขาดถึงแม้เขาจะตีไกล สุดกู่จนเราคึดว่าตีไม่ถึงเขาก็ตาม
    2) ถึงเขาจะตีครั้งที่ 2 ออกไปแล้ว แต่...ถ้าไปเจอก๊วนหน้าที่ตีไม่เก่งแล้วละก็ บางที่ตีไปแล้วตั้งสองสามครั้งแล้วก็เถอะ อาจจะป๊อกแป๊กอยู่แถวข้างหน้าเรา    ก็เป็นได้  อย่าพึ่งไปโมโหเขานะ..คึดถึงวันที่เราตีครั้งแรกเข้าไว้นะ ยิ่งกว่านี้เยอะเลย
จะตีหรือยัง !!! เอาละซิ มีจุดทีออฟตั้งหลายจุดจะเล่นจุดไนดี มีทั้งที่วางลูกบอล(หมุด)สีน้ำเงิน,สีเลือง,สีขาวแล้วก็แดง
หมุดน้ำเงิน   ไกลสุด ทีออฟสำหรับมือโปร
หมุดสีเหลือง สำหรับ ซีเนียร์โปร ( ในที่นี้หมายถึง โปรสูงอายุนะครับ ก็เลยเรี่ยวแรงหดหายไปตามอายุ )
หมุดขาว       ก็เป็นของชายหนุ่มทั่วไปที่ยังเล่นกันไม่เก่ง
หมุดแดง      สำหรับสุภาพสตรีครับ
            เอาละครับทีนีก็เลือกที่ปักทีวางลูกแล้วก็ตีได้ครับ.....แต่ระวังอย่าปักลูกล้ำแนวหมุดนะครับถูกปรับแต้มไม่รู้ด้วย...
เขียนสกอร์การ์ด...อ่านคะแนน
ส่วนใหญ่แล้วสกอร์การ์ดจะได้รับพร้อมกับคูปองกรีนฟรีหรืออาจจะรับแจกจากสตาร์ทเตอร์  ลองเปิดดูซิครับ ถ้าเป็นสนามกอล์ฟที่มี 3 คอร์ด ก็จะมีให้ 3ส่วนและส่วนใหญ่จะแบ่งเรียกว่าเป็นคอร์ด A,Bแล้วก็C บางที่ก็อาจจะเรียกตามลักษณะสนามว่าเป็น ภูเขา-ทะเลสาบ หรือ ทราย แต่ละส่วนของสกอร์อการ์ดก็จะมีคอร์ดละ 9  หลุม แต่ละหลุมก็จะมีระบุว่าเป็นพาร์อะไร ระยะเท่าไหร่ตามระยะของหมุดน้ำเงิน,เหลือง,ขาวและแดงบอกไว้   ทีนี้ก็ถึงการนับละครับ..ผมจะบอกวิธีการนับและการลงของการเล่นแบบสโตร์คเพลย์ก่อนนะครับเพราะโดยทั่วไปจะนิยมเล่นกันแบบนี้มากกว่า...ก็นับตามจำนวนที่ตี แล้วก็พัตจนลงหลุมละครับ...วิธีการลงเท่าที่เห็นก็มี 2 แบบละครับถ้าอย่างทั่ว ๆ ไป ตีไป กี่ครั้งก็ลงไปตามจำนวนที่ตีในช่องของหลุมที่เราเริ่มตีนั่นละครับอีกแบบก็คือนับแต้มเทียบกับพาร์  เช่น ถ้าตีหลุมพาร์ 5 ถ้าตี 4 ครั้งลง ก็จะลงในช่อง=  -1 (เรียกว่าไดเบอร์ดี้)  แต่ถ้าตี  5 ครั้งลงก็เขียนตัว E ลงไปหมายถึง Even    ( เรียกว่าได้พาร์ ) ตี 6 ครั้งลงก็ลงว่า = +1(โบกี้)  ก็คือได้เกินหรือต่ำกว่าพาร์เท่าไหร่ก็บวกลบลงไปตามนั้น พอเล่นจบ 9 หลุมก็รวมคะแนน 9 หลุมแล้วเอาไปบวกกับจำนวนพาร์รวมของ 9 หลุมคือ36 ว่าจะได้แต้มรวมกี่สโตร์ค แล้วพอเล่น 9 หลุมหลังก็รวมอีกครั้ง (ครึ่งแรก 9 ครึ่งหลัง 9) ดูว่าทั้ง 18 หลุมได้เท่าไหร่